Skip to Content

แนวรับ – แนวต้าน (Support & Resistance)

📏 แนวรับ – แนวต้าน (Support & Resistance) คืออะไร?

แนวรับ และ แนวต้าน คือ จุดหรือบริเวณราคาที่มีความสำคัญ บนกราฟหุ้น

ใช้เพื่อวิเคราะห์ว่า ราคาจะหยุด พัก หรือกลับตัว เมื่อเคลื่อนเข้าใกล้ระดับเหล่านี้

เป็นเครื่องมือสำคัญใน การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)

🧠 ความหมาย:

คำศัพท์ ความหมาย เปรียบเทียบง่าย ๆ
แนวรับ (Support) ระดับราคาที่คาดว่า “จะมีแรงซื้อ” เข้ามาช่วยพยุงราคาไว้ไม่ให้ตกลงต่อ พื้น
แนวต้าน (Resistance) ระดับราคาที่คาดว่า “จะมีแรงขาย” เข้ามากดไว้ไม่ให้ราคาขึ้นต่อ เพดาน

📊 ตัวอย่างบนกราฟ

  • ถ้าราคาหุ้นตกลงมาเรื่อย ๆ แล้วเด้งกลับที่ 20 บาท หลายครั้ง → บริเวณ 20 บาท = แนวรับ
  • ถ้าราคาหุ้นขึ้นแล้วติดแถว 30 บาท หลายครั้ง → บริเวณ 30 บาท = แนวต้าน

✅ วิธีดูแนวรับ – แนวต้านเบื้องต้น

1. 📉 จากจุด “สูงสุด” และ “ต่ำสุด” ในอดีต

  • ดูจากกราฟย้อนหลัง 3 – 6 เดือน
  • จุดที่ราคาหยุด / เด้งขึ้น / เด้งลงบ่อย ๆ คือแนวรับ-แนวต้าน

2. 📏 ใช้เส้น Moving Average (MA)

  • เช่น MA50, MA200 มักทำหน้าที่เป็นแนวรับ-แนวต้านอัตโนมัติ

3. 📐 ใช้ Fibonacci Retracement

  • วัดจุดย่อ-จุดกลับตัวในแนวโน้มใหญ่ ใช้ตัวเลข 23.6%, 38.2%, 61.8% เป็นต้น

4. 📦 Volume Profile

  • บริเวณที่มีการซื้อขายมาก (Volume สูง) มักเป็นแนวรับ-แนวต้านที่แข็งแรง

🎯 การใช้งาน

กลยุทธ์ วิธีใช้
เล่นเด้งจากแนวรับ ซื้อเมื่อราคาลงมาใกล้แนวรับ แล้วมีสัญญาณกลับตัว
ขายเมื่อชนแนวต้าน ทำกำไร หรือระวังกลับตัวลง
รอทะลุแนวต้านเพื่อซื้อ (Breakout) ถ้าราคาทะลุแนวต้านพร้อมปริมาณซื้อขายสูง → อาจไปต่อ
ตั้งจุดตัดขาดทุนใต้แนวรับ ถ้าหลุดแนวรับ = แนวโน้มเสีย อาจลงต่อ

🧩 ตัวอย่างจริง

สมมุติหุ้น ABC มีพฤติกรรมดังนี้:

ระดับราคา พฤติกรรม
20 บาท เด้งขึ้นหลายรอบ → แนวรับแข็งแรง
30 บาท ติดและย่อลงหลายครั้ง → แนวต้านสำคัญ
ราคาปัจจุบัน = 25 บาท อยู่กลาง ๆ → รอดูว่าทะลุแนวไหนก่อน

⚠️ ข้อควรระวัง

  • แนวรับ-แนวต้านไม่ใช่ “จุดแน่นอน” แต่เป็น บริเวณ (Zone)
  • ต้องดูร่วมกับ สัญญาณอื่น เช่น RSI, MACD, Volume
  • การหลุดแนวรับ/แนวต้านแรง ๆ → บ่งบอกว่า “ตลาดเปลี่ยนมุมมอง”

ที่มา : ChatGPT

แชร์โพสต์นี้
แท็ก
คลังเก็บเอกสารสำคัญ
MACD และ RSI