📈 ROE (Return on Equity) คืออะไร?
ROE หรือ อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น คือ ตัวชี้วัดว่าบริษัทสามารถใช้ เงินทุนของผู้ถือหุ้น สร้าง กำไร ได้มากน้อยแค่ไหน
🧮 สูตรการคำนวณ
ROE=กำไรสุทธิ (Net Profit)ส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholders’ Equity)×100\text{ROE} = \frac{\text{กำไรสุทธิ (Net Profit)}}{\text{ส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholders' Equity)}} \times 100
- หน่วยวัด: เปอร์เซ็นต์ (%)
✅ ตัวอย่าง
- กำไรสุทธิ: 100 ล้านบาท
- ส่วนของผู้ถือหุ้น: 500 ล้านบาท
ROE=100500×100=20%ROE = \frac{100}{500} \times 100 = 20\%
แปลว่า: บริษัทสามารถทำกำไรได้ 20 บาท ต่อเงินทุนผู้ถือหุ้นทุก 100 บาท
📊 การตีความค่า ROE
ค่า ROE | ความหมาย | หมายเหตุ |
---|---|---|
< 8% | บริษัทอาจมีปัญหาในการสร้างกำไร | พิจารณาให้รอบคอบ |
8% – 15% | ระดับปานกลาง | เป็นมาตรฐานทั่วไป |
> 15% | บริษัทใช้ทุนได้มีประสิทธิภาพ | นักลงทุนมักชอบ |
✅ บริษัทที่มี ROE สูง = บริหารทุนได้คุ้มค่า
✅ ROE สม่ำเสมอหลายปี = ธุรกิจแข็งแรง มั่นคง
🧠 ROE เหมาะกับการใช้เมื่อไหร่?
- เมื่อเปรียบเทียบบริษัท ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
- ใช้ร่วมกับ P/BV เพื่อตัดสินใจว่าหุ้น "คุ้มค่าหรือไม่"
🔁 ความสัมพันธ์ระหว่าง ROE กับ P/BV
| P/BV ต่ำ + ROE สูง | หุ้นดี ราคายังไม่แพง → 📌 น่าสนใจ |
| P/BV สูง + ROE ต่ำ | อาจราคาสูงเกินพื้นฐาน → ⚠️ ควรระวัง |
📌 ตัวอย่างวิเคราะห์หุ้นด้วย ROE:
หุ้น | ROE | P/BV | วิเคราะห์เบื้องต้น |
---|---|---|---|
A | 18% | 1.1 | ใช้ทุนได้ดี ราคาหุ้นไม่แพง |
B | 7% | 2.0 | สร้างกำไรได้น้อย แต่ราคาหุ้นสูง |
C | 12% | 0.9 | พอใช้ได้ อาจเป็นโอกาสเข้าลงทุน |
⚠️ ข้อควรระวังในการใช้ ROE
- ROE สูง แต่เกิดจากกำไรพิเศษชั่วคราว = อาจไม่ยั่งยืน
- ROE อาจ ดูดีเกินจริงหากทุนต่ำมาก เพราะมีการกู้หนี้จำนวนมาก
- ควรดูแนวโน้ม ROE ย้อนหลัง 3-5 ปี เพื่อดูความสม่ำเสมอ
ที่มา : ChatGPT