Skip to Content

การปลูกผสมพันธุ์ หมอนทอง + พวงมณี

การปลูกผสมพันธุ์ หมอนทอง + พวงมณี ในสวนเดียวกัน เป็นกลยุทธ์ที่ ลดความเสี่ยง + เพิ่มโอกาสการตลาด ได้ดีมาก เพราะทั้งสองพันธุ์มีความต่างที่ “เสริมกัน”

📊 เปรียบเทียบพันธุ์

รายการ หมอนทอง พวงมณี
ผล/กก. 2–5 กก. 1–2 กก.
อายุเก็บเกี่ยว 120–135 วันหลังดอกบาน 90–100 วันหลังดอกบาน
รสชาติ หวานมัน กลิ่นอ่อน → เหมาะส่งออก หวานหอมจัดจ้าน กลิ่นแรงกว่าเล็กน้อย
ตลาดหลัก จีน, ฮ่องกง, เกาหลี, ส่งออกไกล จีนเริ่มนิยม + ตลาดในประเทศ
ข้อดี ผลใหญ่ เนื้อหนา เมล็ดลีบ เก็บรักษานาน ผลเล็ก กินง่าย รสเข้มข้น ขายได้เร็ว
ข้อจำกัด ใช้เวลานานกว่าจะสุก → เสี่ยงราคาตกถ้าผลผลิตออกมากพร้อมกัน เนื้อน้อยกว่าหมอนทอง เก็บรักษาไม่ทนเท่า

🌱 แนวทางปลูกผสม

1. สัดส่วนการปลูกแนะนำ

  • ปลูก หมอนทอง 70% + พวงมณี 30%
    • หมอนทอง → เน้นตลาดหลัก ส่งออก
    • พวงมณี → ออกผลเร็ว ขายได้ช่วงต้นฤดูกาล ราคาดี

2. ระยะปลูก

  • ใช้มาตรฐาน 8 × 8 เมตร (ประมาณ 25 ต้น/ไร่)
  • หากผสม 2 พันธุ์ → เช่น
    • 18 ต้นหมอนทอง + 7 ต้นพวงมณี ต่อไร่
    • หรือปลูกแบบสลับแถว (1 แถวหมอนทอง / 1 แถวพวงมณี)

3. การจัดการสวน

  • โภชนาการ: หมอนทองต้องการธาตุอาหารมากกว่า ควรเสริมปุ๋ยอินทรีย์/ปุ๋ยน้ำหมักบ่อย
  • การเก็บเกี่ยว: พวงมณีสุกก่อน → เก็บขายได้ทันที ช่วยหมุนเงินสด
  • การตลาด: สามารถขาย “คละพันธุ์” → ดึงดูดผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม

✅ ข้อดีของการปลูกผสม

  1. กระจายความเสี่ยงด้านตลาด → ไม่พึ่งพันธุ์เดียว
  2. มีผลผลิตหลายช่วงเวลา → พวงมณีออกก่อน → ได้ราคาดี
  3. เพิ่มโอกาสเจาะตลาดจีน → เพราะตลาดเริ่มนิยมพวงมณีมากขึ้น
  4. ภาพลักษณ์สวน → สวนที่มีพันธุ์หลายแบบ น่าสนใจกับนักท่องเที่ยว/นักลงทุน

ผังแปลงปลูกทุเรียน 1 ไร่ (ประมาณ 25 ต้น ระยะปลูก 8×8 เมตร)

ผังแปลงปลูกทุเรียน 1 ไร่ (ประมาณ 25 ต้น ระยะปลูก 8×8 เมตร)

  • วงกลมสีทอง = หมอนทอง (18 ต้น)
  • วงกลมสีส้ม = พวงมณี (7 ต้น)

จัดแบบสลับตำแหน่งเพื่อความสมดุลของแปลง ✅

แชร์โพสต์นี้
คลังเก็บเอกสารสำคัญ
พันธุ์ ทุเรียนชะนี