Skip to Content

กระจายความเสี่ยง (Diversification)

กระจายความเสี่ยง (Diversification) ✨นี่คือ “หัวใจ” ของการลงทุนระยะยาวเลยครับ

ความหมาย

Diversification = ไม่เอาไข่ไปใส่ตะกร้าใบเดียว

คือการกระจายเงินลงทุนไปในสินทรัพย์หลายประเภท หลายอุตสาหกรรม หลายประเทศ เพื่อให้ความเสี่ยงโดยรวมลดลง

ประเภทการกระจายความเสี่ยง

  1. ตามสินทรัพย์ (Asset Class)
    • หุ้น → เติบโตสูง แต่ผันผวน
    • ตราสารหนี้/พันธบัตร → เสี่ยงต่ำ รายได้คงที่
    • อสังหาริมทรัพย์ → สร้างกระแสเงินสดจากค่าเช่า
    • ทองคำ / Commodity → ป้องกันเงินเฟ้อ ค่าเงินผันผวน
    • เงินสด/กองทุนตลาดเงิน → สภาพคล่อง ใช้ยามฉุกเฉิน
  2. ตามอุตสาหกรรม (Sector)
    • ไม่ลงทุนเฉพาะเทคโนโลยี แต่กระจายไปยังพลังงาน สุขภาพ การเงิน อสังหาฯ
  3. ตามภูมิภาค (Geography)
    • หุ้นไทย หุ้นสหรัฐ หุ้นเอเชีย หุ้นยุโรป ฯลฯ
  4. ตามเวลา (Time Diversification)
    • ลงทุนแบบ DCA (ทยอยซื้อทุกเดือน) ลดความเสี่ยงจากจังหวะตลาด

ตัวอย่างพอร์ต (เหมาะสำหรับคนทั่วไป)

  • พอร์ตเสี่ยงต่ำ → พันธบัตร 70% + หุ้นปันผล 20% + ทอง 10%
  • พอร์ตเสี่ยงกลาง → หุ้น 50% + พันธบัตร 30% + ทอง/อสังหาฯ 20%
  • พอร์ตเสี่ยงสูง → หุ้นเติบโต 60% + หุ้นโลก/กองทุนธีม 20% + Crypto/ทอง 20%

ประโยชน์ของ Diversification

✅ ลดความเสี่ยง หากสินทรัพย์หนึ่งขาดทุน อีกสินทรัพย์อาจชดเชยได้

✅ ทำให้พอร์ตไม่เหวี่ยงแรงเกินไป

✅ เพิ่มโอกาสให้ผลตอบแทนเฉลี่ยคงที่ในระยะยาว

✨ สรุป: การกระจายความเสี่ยงคือ “เกราะป้องกันนักลงทุน” คุณไม่สามารถรู้ได้ว่าอนาคตอะไรจะดี แต่ถ้ากระจายพอเหมาะ คุณก็ไม่เจ็บตัวหนัก

แชร์โพสต์นี้
แท็ก
คลังเก็บเอกสารสำคัญ
แนวคิด High Risk = High Return