การใช้งาน Option ใน TFEX (Thailand Futures Exchange) จะต่างจากการเทรด Futures ปกติ เพราะ Option มีลักษณะเป็น “สิทธิ” (ไม่ใช่ภาระผูกพัน) ทำให้มีการใช้งานเพื่อ ป้องกันความเสี่ยง (Hedging) และ เก็งกำไร (Speculation) ได้หลากหลายรูปแบบ
🔑 ประเภทของ Option ที่ใช้ใน TFEX
-
Call Option (สิทธิในการซื้อ)
- ผู้ซื้อ Call มีสิทธิซื้อสัญญา Futures ที่ราคาที่ตกลง (Strike Price)
- ถ้าตลาดขึ้นสูงกว่า Strike → ผู้ซื้อ Call มีกำไร
- ผู้ขาย Call ต้องรับความเสี่ยงไม่จำกัด
-
Put Option (สิทธิในการขาย)
- ผู้ซื้อ Put มีสิทธิขายสัญญา Futures ที่ Strike Price
- ถ้าตลาดลงต่ำกว่า Strike → ผู้ซื้อ Put มีกำไร
- ผู้ขาย Put เสี่ยงถ้าตลาดปรับตัวลงแรง
🎯 การใช้งาน Option TFEX
-
Hedging (ป้องกันความเสี่ยง)
- นักลงทุนหุ้นกลัวตลาดตก → ซื้อ Put Option เพื่อประกันพอร์ต
- นักลงทุนทอง/น้ำมัน → ใช้ Option ควบคู่กับ Futures เพื่อลดความผันผวน
-
Speculation (เก็งกำไร)
- ซื้อ Call → ถ้าคาดว่าตลาดจะขึ้นแรง
- ซื้อ Put → ถ้าคาดว่าตลาดจะลงแรง
- ข้อดีคือ ขาดทุนจำกัด แค่ Premium ที่จ่าย
-
Income Strategy (สร้างรายได้จากค่า Premium)
- ขาย Call หรือ Put เพื่อเก็บค่า Premium
- แต่ต้องรับความเสี่ยงสูง (ถ้าตลาดวิ่งแรงผิดทาง)
- เหมาะกับคนที่บริหารความเสี่ยงเก่ง มีเงินค้ำประกันพอ
-
กลยุทธ์ผสม (Options Strategies)
- Straddle: ซื้อ Call + Put ที่ Strike เดียวกัน → เล่นผันผวนสูง
- Strangle: ซื้อ Call + Put ที่ Strike ต่างกัน → ต้นทุนถูกกว่า
- Covered Call: ถือ Futures หรือหุ้น + ขาย Call เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม
📊 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนใช้งาน
- Premium = ราคาค่า Option ที่จ่ายให้ผู้ขาย (เหมือนค่าเบี้ยประกัน)
- Strike Price = ราคาที่จะใช้สิทธิซื้อ/ขาย Futures
- Expiration Date = วันหมดอายุของ Option
- Greeks (Delta, Theta, Vega, Gamma) → ใช้วัดความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงราคา