⚖️ D/E (Debt to Equity Ratio) คืออะไร?
D/E Ratio หรือ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นตัวชี้วัดว่าบริษัทใช้ เงินกู้ (หนี้) มากน้อยแค่ไหน เทียบกับเงินทุนของผู้ถือหุ้น ในการดำเนินธุรกิจ
🧮 สูตรการคำนวณ
D/E=หนี้สินรวม (Total Liabilities)ส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholders’ Equity)\text{D/E} = \frac{\text{หนี้สินรวม (Total Liabilities)}}{\text{ส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholders' Equity)}}
- หน่วยวัด: เท่า (เช่น 0.5 เท่า, 2 เท่า ฯลฯ)
✅ ตัวอย่าง
- หนี้สินรวม: 200 ล้านบาท
- ส่วนของผู้ถือหุ้น: 400 ล้านบาท
D/E=200400=0.5เท่าD/E = \frac{200}{400} = 0.5 เท่า
แปลว่า บริษัทมีหนี้อยู่ครึ่งหนึ่งของเงินทุนที่ผู้ถือหุ้นใส่เข้ามา
📊 การตีความค่า D/E
ค่า D/E | ความหมาย | หมายเหตุ |
---|---|---|
< 1.0 | บริษัทมีความเสี่ยงด้านหนี้ต่ำ | ปลอดภัย มั่นคง |
1.0 – 2.0 | บริษัทเริ่มใช้หนี้ในการขยายธุรกิจ | ควรดูควบคู่กับอัตรากำไร |
> 2.0 | บริษัทมีภาระหนี้สูง | อาจเสี่ยงหากรายได้ไม่แน่นอน |
🔍 บริษัทที่มี กระแสเงินสดดี อาจรับภาระหนี้สูงได้
แต่บริษัทที่รายได้ผันผวนควรมี D/E ต่ำ
🎯 D/E เหมาะกับการใช้เมื่อใด?
- ประเมิน ความเสี่ยงทางการเงิน ของบริษัท
- ใช้ร่วมกับ ROE, Current Ratio, Interest Coverage
- สำคัญมากสำหรับธุรกิจที่มี ต้นทุนทางการเงินสูง (เช่น กลุ่มอสังหา, อุตสาหกรรมหนัก)
⚖️ ความสัมพันธ์กับการลงทุน
D/E ต่ำ | D/E สูง |
---|---|
ความเสี่ยงต่ำ | ความเสี่ยงสูง |
โอกาสเติบโตช้า (ใช้ทุนตัวเอง) | โอกาสเติบโตเร็ว (ขยายกิจการด้วยหนี้) |
เหมาะกับผู้ลงทุนเน้นมั่นคง | เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ |
🔍 ตัวอย่างวิเคราะห์หุ้นด้วย D/E
หุ้น | D/E | ROE | วิเคราะห์เบื้องต้น |
---|---|---|---|
A | 0.5 | 15% | บริษัทมั่นคง ทำกำไรดี |
B | 2.5 | 20% | หนี้สูง → ต้องดูรายได้และกระแสเงินสด |
C | 1.2 | 10% | ระดับกลาง → เสถียรพอใช้ได้ |
⚠️ ข้อควรระวัง
- บางธุรกิจจำเป็นต้องมี D/E สูง เช่น พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (เพราะต้องลงทุนล่วงหน้า)
- D/E สูงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอ ถ้าบริหารหนี้ได้ดี และสร้างกำไรสูง
- ควรดูแนวโน้ม D/E 3-5 ปี ว่าลดลงหรือเพิ่มขึ้น
ที่มา : ChatGPT