พันธุ์ ทุเรียนชะนี
🌳 เป็นพันธุ์ดั้งเดิมของไทยที่ยังได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะตลาดในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านครับ ถึงแม้จะไม่ใช่พันธุ์หลักสำหรับส่งออกเหมือนหมอนทอง แต่ รสชาติหวานมันจัดจ้านและกลิ่นแรง ทำให้ยังมีแฟนพันธุ์แท้จำนวนมาก
🔎 ลักษณะทั่วไปของพันธุ์ชะนี
- ทรงต้น: ทรงพุ่มปานกลาง–ใหญ่ แข็งแรง
- ผล: ทรงกลมรี ขนาด 1.5–3 กก./ผล
- หนาม: แหลมเรียงถี่ สั้นกว่าหมอนทอง
- ก้านผล: สั้นกว่าพันธุ์หมอนทอง
🍽️ ลักษณะเนื้อและรสชาติ
- เนื้อ: สีเหลืองเข้ม เนื้อแน่นกว่าหมอนทอง
- รสชาติ: หวานมันจัดจ้าน มีกลิ่นแรงเฉพาะตัว
- เมล็ด: ขนาดกลาง–ใหญ่ → เนื้อไม่เยอะเท่าหมอนทอง
📊 จุดเด่น
- รสชาติถูกใจ ผู้บริโภคที่ชอบกลิ่นทุเรียนแรง
- อายุเก็บเกี่ยวสั้นกว่า → ประมาณ 100–110 วันหลังดอกบาน (หมอนทองใช้ 120–135 วัน)
- ออกผลเร็ว → ได้ผลผลิตก่อนพันธุ์หมอนทอง ทำให้ขายได้ราคาดีกว่าในช่วงต้นฤดูกาล
- ต้นทนทาน แข็งแรงกว่า “ก้านยาว”
⚠️ ข้อควรระวัง
- กลิ่นแรง → ไม่เหมาะกับตลาดส่งออก (เช่น จีน ชอบหมอนทอง/พวงมณีมากกว่า)
- เมล็ดใหญ่ → เนื้อไม่เยอะเหมือนหมอนทอง
- ต้องดูแลป้องกันโรครากเน่า–โคนเน่าเช่นเดียวกับพันธุ์อื่น
📍 พื้นที่ปลูกที่เหมาะสม
- ภาคตะวันออก: จันทบุรี ระยอง ตราด
- ภาคใต้: ชุมพร สุราษฎร์ธานี นราธิวาส
- พื้นที่ที่มี ดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี
✅ สรุป
ทุเรียนชะนีเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ต้องการปลูกขาย ตลาดภายในประเทศ
- เน้น ออกผลเร็ว ขายได้ราคาดีในช่วงต้นฤดูกาล
- ผู้บริโภคที่ชอบทุเรียนรสชาติจัดจ้าน กลิ่นแรง