Skip to Content

Bollinger Bands

Bollinger Bands (BB) – อินดิเคเตอร์ยอดนิยมที่ช่วยวิเคราะห์ความผันผวนของราคา และใช้หาจุดซื้อ-ขายอย่างมีประสิทธิภาพ

📘 Bollinger Bands คืออะไร?

Bollinger Bands คือ อินดิเคเตอร์วิเคราะห์ทางเทคนิคที่พัฒนาโดย John Bollinger

มันประกอบด้วย 3 เส้นหลัก:

  1. Middle Band – เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (มักใช้ SMA 20)
  2. Upper Band – เส้นบน = SMA + (2 x ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)
  3. Lower Band – เส้นล่าง = SMA – (2 x ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

สูตรพื้นฐาน:

  • Upper Band = SMA(20) + 2σ
  • Lower Band = SMA(20) – 2σ

🧠 หลักการทำงานของ Bollinger Bands

  • เมื่อ ราคาวิ่งใกล้ Upper Band → ราคาน่าจะ “แพง” (Overbought)
  • เมื่อ ราคาวิ่งใกล้ Lower Band → ราคาน่าจะ “ถูก” (Oversold)
  • เมื่อ แถบแคบลง (Squeeze) → สัญญาณว่าความผันผวนลดลง และอาจเกิดการเบรกเอาท์ (Breakout)
  • เมื่อ แถบกว้างออก → ความผันผวนเพิ่มขึ้น

📈 การใช้งาน Bollinger Bands

1. ดูภาวะ Overbought / Oversold

  • ไม่ใช่การบอก "จุดกลับตัว" โดยตรง แต่เป็นการเตือนว่าราคาเคลื่อนออกจากค่ากลางมากเกินไป

2. กลยุทธ์ Bollinger Bounce

  • เมื่อราคาชน Upper หรือ Lower Band → มีโอกาสเด้งกลับเข้าไปในกรอบกลาง

3. กลยุทธ์ Bollinger Breakout

  • เมื่อแถบแคบลง (Squeeze) แล้วราคาทะลุแถบ → สัญญาณเริ่มแนวโน้มใหม่ (แรง)

4. ใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น

  • เช่น RSI, MACD เพื่อยืนยันสัญญาณจาก BB

ข้อดีของ Bollinger Bands

ข้อดี รายละเอียด
วิเคราะห์ความผันผวนได้ดี เห็นช่วงที่ราคานิ่งและราคากำลังเคลื่อนไหวแรง
ใช้ได้ในทุกตลาด หุ้น, ฟอเร็กซ์, คริปโต ฯลฯ
ใช้ได้ทุก Timeframe เดย์เทรด หรือระยะยาวก็ได้
ใช้ร่วมกับกลยุทธ์อื่นได้ง่าย เป็นอินดิเคเตอร์ที่ยืดหยุ่นสูง

⚠️ ข้อจำกัดของ Bollinger Bands

ข้อจำกัด รายละเอียด
ไม่ให้ “จุดเข้า/ออก” ที่ชัดเจน ต้องใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่นเพื่อยืนยัน
อาจเกิด “สัญญาณหลอก” โดยเฉพาะในตลาด Sideway
ต้องใช้การตีความร่วม เช่น เมื่อราคาเบรกแถบ ควรดูปริมาณการซื้อขายด้วย (Volume)

🔧 การตั้งค่า Bollinger Bands (มาตรฐาน)

  • Period: 20
  • StdDev: 2

แต่สามารถปรับค่าได้ตาม Timeframe และกลยุทธ์ที่ใช้

เช่น:

  • Scalper อาจใช้ Period = 10, StdDev = 1.5
  • Swing trader อาจใช้ Period = 20-50

🎯 ตัวอย่างการใช้งานในชีวิตจริง

  1. BB + RSI
    • RSI ต่ำ + ราคาทะลุ Lower Band → มีโอกาสเกิด Rebound
    • RSI สูง + ราคาทะลุ Upper Band → อาจเกิดการย่อราคา
  2. BB Squeeze + Breakout
    • แถบ BB แคบลงมาก = ตลาดกำลังสะสมแรง
    • ถ้าราคาทะลุจากแถบ (พร้อม Volume สูง) → เทรนด์ใหม่เริ่มขึ้น
แชร์โพสต์นี้
แท็ก
คลังเก็บเอกสารสำคัญ
เปรียบเทียบกับ EMA/MA Cross