Skip to Content

“โรคไส้เน่า” หรือ “โรคเนื้อเน่า”

ทุเรียนไส้เน่า 🍂

เป็น โรคพืชสำคัญของทุเรียน ที่สร้างความเสียหายต่อคุณภาพและมูลค่าผลผลิต เกษตรกรจำนวนมากเรียกว่า “โรคไส้เน่า” หรือ “โรคเนื้อเน่า” ซึ่งแตกต่างจากการถูกหนอนเจาะผล เพราะโรคนี้เกิดจาก เชื้อราพืช ไม่ใช่แมลง

🦠 สาเหตุของทุเรียนใส้เน่า

  1. เชื้อรา Phytophthora palmivora
    • เป็นเชื้อราดินที่ระบาดมากในสวนทุเรียน โดยเฉพาะในฤดูฝนหรือพื้นที่ชื้นแฉะ
    • เข้าทำลายผลผ่านขั้วผลหรือเปลือกที่มีรอยแผล
    • ทำให้เนื้อทุเรียนเน่าเป็นสีน้ำตาล มีกลิ่นเหม็น
  2. เชื้อรา Lasiodiplodia theobromae (บางพื้นที่พบร่วมด้วย)
    • ทำให้เกิดโรคผลเน่า ก้านเน่า และลุกลามเข้าไปถึงเนื้อ

🔍 ลักษณะอาการ

  • เริ่มจาก เนื้อทุเรียนด้านในเน่า เป็นสีน้ำตาลเข้มหรือดำ
  • บางครั้ง เน่าจากขั้วผล และลุกลามเข้าไปถึงเมล็ด
  • ภายนอกผลอาจยังดูปกติ แต่เมื่อผ่าออกจะเห็นเนื้อเสียหาย
  • มีกลิ่นเหม็นคล้ายเน่าบูด
  • หากปล่อยทิ้งไว้ เนื้อจะยุ่ยเละ และผลร่วงก่อนกำหนด

✅ วิธีป้องกันและจัดการ

🛡 การป้องกัน

  1. จัดการน้ำในสวน
    • ปรับพื้นที่ไม่ให้มีน้ำขัง
    • ทำทางระบายน้ำที่ดีในฤดูฝน
  2. ห่อผลทุเรียน ด้วยถุงตาข่าย/ถุงกระดาษ ลดโอกาสเชื้อเข้าผ่านรอยแผล
  3. หลีกเลี่ยงการทำให้เปลือกช้ำ เพราะเชื้อเข้าทางบาดแผลได้ง่าย
  4. ตัดแต่งกิ่งให้อากาศถ่ายเท ลดความชื้นในทรงพุ่ม

💊 การรักษา/ควบคุม

  • พ่นหรือราดสารป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น
    • ฟอสฟอรัสแอซิด (Phosphorous acid / Phosetyl-Al)
    • เมทาแลกซิล (Metalaxyl)
  • ตัดผลที่เป็นโรคออกจากสวน และเผาทำลายทันที
  • ใช้เชื้อจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ เช่น ไตรโคเดอร์มา (Trichoderma spp.) เพื่อควบคุมเชื้อราในดิน

⚠️ ข้อควรระวัง

  • ผลทุเรียนที่มีอาการใส้เน่า ไม่ควรนำมาบริโภค
  • หากพบโรคบ่อยในสวน แสดงว่าสวนอาจมีปัญหาเรื่อง เชื้อราสะสมในดิน ต้องแก้ที่ระบบน้ำและการจัดการดิน
แชร์โพสต์นี้
แท็ก
คลังเก็บเอกสารสำคัญ
หนอนเจาะผลทุเรียน เมื่อโตเต็มที่แล้วจะกลายเป็น !