📘 Simple Moving Average (SMA) คืออะไร?
SMA (Simple Moving Average) หรือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย คือหนึ่งในอินดิเคเตอร์พื้นฐานที่สุดในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ใช้เพื่อ "ปรับให้เรียบ" การเคลื่อนไหวของราคาบนกราฟ และดูแนวโน้มของตลาด
🔧 หลักการทำงานของ SMA
SMA คำนวณโดย:
SMA = (ราคาปิดของแต่ละช่วงเวลารวมกัน) ÷ จำนวนช่วงเวลา
เช่น:
- SMA 10 วัน = ผลรวมราคาปิด 10 วันที่ผ่านมา ÷ 10
SMA จะเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป (Moving Average)
📈 การใช้งาน SMA
1. ดูแนวโน้ม (Trend Detection)
- ถ้าราคาอยู่ เหนือ SMA → แนวโน้มขาขึ้น
- ถ้าราคาอยู่ ต่ำกว่า SMA → แนวโน้มขาลง
2. แนวรับแนวต้าน (Dynamic Support/Resistance)
- SMA สามารถทำหน้าที่เป็นแนวรับ (support) หรือแนวต้าน (resistance) ตามทิศทางของเทรนด์
3. ใช้ร่วมกับ SMA หลายเส้น
เช่น:
- SMA 20 และ SMA 50
- เมื่อเส้นสั้นตัดขึ้นเส้นยาว → สัญญาณซื้อ (Golden Cross)
- เมื่อเส้นสั้นตัดลงเส้นยาว → สัญญาณขาย (Death Cross)
✅ ข้อดีของ SMA
ข้อดี | รายละเอียด |
ใช้งานง่าย | เข้าใจและตั้งค่าได้ง่าย |
ชัดเจน | แนวโน้มราคาแสดงผ่านเส้น SMA ชัดเจน |
เหมาะกับตลาดเทรนด์ | ทำงานได้ดีเมื่อราคาเคลื่อนไหวเป็นแนวโน้ม |
⚠️ ข้อจำกัดของ SMA
ข้อจำกัด | รายละเอียด |
ช้า | SMA ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงราคาช้ากว่า EMA (Exponential Moving Average) |
สัญญาณหลอก | อาจเกิดสัญญาณผิดพลาดในตลาดนิ่งหรือ Sideways |
ไม่เหมาะกับการเทรดเร็ว | เนื่องจากความล่าช้า (lagging) ไม่เหมาะกับการ scalping หรือเทรดระยะสั้นมาก ๆ |
🧠 SMA vs EMA
ด้าน | SMA | EMA |
การคำนวณ | เฉลี่ยแบบง่าย | ให้ค่าน้ำหนักกับราคาล่าสุดมากกว่า |
ความไว | ช้ากว่า | ไวต่อราคาล่าสุด |
ความเรียบของกราฟ | เรียบกว่า | ตอบสนองไวกว่า |
📌 ตัวอย่างบนกราฟ (TradingView)
- SMA 20 – ใช้ดูแนวโน้มระยะสั้น
- SMA 50 – ระยะกลาง
- SMA 200 – ระยะยาว ใช้ดูเทรนด์ใหญ่ของตลาด