💰 EPS (Earnings per Share) คืออะไร?
EPS หรือ กำไรต่อหุ้น คือตัวเลขที่แสดงถึง "กำไรสุทธิที่บริษัทสร้างได้ต่อหุ้นหนึ่งหน่วย" ใช้เพื่อวัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัทแบบรายบุคคล (per share) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินมูลค่าหุ้น
🧮 สูตรการคำนวณ EPS
EPS=กำไรสุทธิ (Net Profit)จำนวนหุ้นสามัญ (Outstanding Shares)\text{EPS} = \frac{\text{กำไรสุทธิ (Net Profit)}}{\text{จำนวนหุ้นสามัญ (Outstanding Shares)}}
- หน่วยวัด: บาทต่อหุ้น
✅ ตัวอย่าง
- บริษัท ABC มีกำไรสุทธิ = 100 ล้านบาท
- จำนวนหุ้นสามัญ = 50 ล้านหุ้น
EPS=100,000,00050,000,000=2.00 บาทต่อหุ้นEPS = \frac{100,000,000}{50,000,000} = 2.00 \, \text{บาทต่อหุ้น}
หมายความว่า บริษัททำกำไรได้ 2 บาทต่อหุ้นหนึ่งหน่วยในช่วงเวลานั้น
📌 EPS ใช้ทำอะไร?
การใช้งาน | คำอธิบาย |
---|---|
ใช้ประกอบการคำนวณ P/E Ratio | P/E=ราคาหุ้นEPS\text{P/E} = \frac{\text{ราคาหุ้น}}{\text{EPS}} |
ประเมิน ศักยภาพการทำกำไร ต่อหุ้น | EPS สูง = บริษัทมีความสามารถทำกำไรดี |
เปรียบเทียบระหว่างบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน | ดูว่าใครทำกำไรได้มากกว่าต่อหุ้น |
ใช้ดู แนวโน้มการเติบโตของกำไร | ถ้า EPS โตทุกปี = บริษัทเติบโตดี |
📈 EPS มีกี่ประเภท?
ประเภท | ความหมาย |
---|---|
EPS พื้นฐาน (Basic EPS) | ใช้กำไรสุทธิ ÷ จำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด |
EPS ปรับลด (Diluted EPS) | คำนวณโดยเผื่อว่ามีหุ้นเพิ่มทุน เช่น Warrant, ESOP ฯลฯ |
นักลงทุนระยะยาวมักดู EPS แบบ พื้นฐาน
นักลงทุนที่วิเคราะห์เชิงลึกจะดู EPS ปรับลด เพื่อความระมัดระวัง
🎯 วิธีใช้ EPS ให้เกิดประโยชน์
🔹 1. ดูแนวโน้มย้อนหลัง 3-5 ปี
หาก EPS โตต่อเนื่อง → บริษัทมี แนวโน้มกำไรเติบโต
หาก EPS แกว่งขึ้นลงแรง → อาจสะท้อนความไม่แน่นอนของธุรกิจ
🔹 2. ใช้ร่วมกับ P/E
- หาก EPS สูง แต่ราคาหุ้นไม่สูงมาก → P/E ต่ำ → อาจน่าสนใจ
- หาก EPS ต่ำ แต่ราคาหุ้นสูง → P/E สูง → ต้องระวัง Overvalued
🔹 3. เปรียบเทียบกับคู่แข่ง
- หุ้นในกลุ่มเดียวกัน เช่น กลุ่มแบงก์ / พลังงาน / เทคโนโลยี
- ดูว่าใคร "ทำกำไรได้ดีกว่า" ต่อหุ้น
⚠️ ข้อควรระวังในการดู EPS
- อย่าดูเฉพาะตัวเลขปีเดียว → ต้องดูแนวโน้มหลายปี
- กำไรสุทธิที่ใช้คำนวณควรเป็น กำไรปกติ (ไม่รวมกำไรพิเศษ)
- บางบริษัทอาจมี กำไรโตเพราะขายทรัพย์สิน ไม่ใช่กำไรจากธุรกิจหลัก
ที่มา : ChatGPT